top of page
ค้นหา

Resource Planning in an Unpredictable World

  • รูปภาพนักเขียน: Sathit Jittanupat
    Sathit Jittanupat
  • 10 พ.ค.
  • ยาว 1 นาที
ree


เมื่อโลกไม่เล่นตามแผน ERP จะยังพาองค์กรไปต่อได้หรือไม่?


ในฐานะคนทำงานที่มีโอกาสวางระบบ ERP ให้กับองค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทย ผมเห็นคุณค่าของระบบเหล่านี้ในการช่วยให้องค์กรดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สภาพแวดล้อมทางธุรกิจยังมีเสถียรภาพ แต่ในช่วงหลัง ๆ มานี้ สถานการณ์เปลี่ยนไปมาก ความไม่แน่นอนกลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก และบางครั้งก็มาพร้อมผลกระทบที่รุนแรงเกินกว่าที่เราจะคาดคิดหรือเตรียมรับมือไว้ทัน



โลกที่วางแผนไม่ได้อีกต่อไป


ลองทบทวนเหตุการณ์สำคัญที่หลายองค์กรในไทยต้องเผชิญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา


  • มาตรการภาษีของรัฐบาล Donald Trump รอบแรก (ปี 2018–2020) ทำให้ต้นทุนสินค้านำเข้าจากจีนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรที่เคยวางแผนจัดซื้อระยะยาวต้องรีบหาทางเลือกใหม่แทบจะข้ามคืน


  • การระบาดของโควิด-19 ที่หยุดสายการผลิตทั่วโลก โรงงานจำนวนมากต้องหยุดเพราะขาดชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่เคยสั่งได้อย่างง่ายดาย


  • ราคาน้ำมันและค่าขนส่งที่ผันผวนในระดับสัปดาห์ ทำให้ต้นทุนที่เคยคำนวณไว้ไม่แม่นยำอีกต่อไป


  • พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในไทยที่ผู้คนเปลี่ยนจากการซื้อของหน้าร้านมาเป็นออนไลน์ และกลับมาเปลี่ยนอีกครั้งเมื่อเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว


  • ล่าสุด เมษายน 2025 มาตรการ "Liberation Day Tariffs" ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ขึ้นภาษีนำเข้า 10% สำหรับสินค้าจากทุกประเทศ และอีก 36% สำหรับสินค้าจากประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


เมื่อมองย้อนกลับไป เหตุการณ์เหล่านี้กลายเป็น "เรื่องปกติใหม่" ที่เราแทบจะต้องเผชิญอยู่ตลอดเวลา



ERP ที่เคยตอบโจทย์ เริ่มกลายเป็นข้อจำกัด


โดยพื้นฐานแล้ว ระบบ ERP ถูกออกแบบมาสำหรับโลกที่ค่อนข้างมีความแน่นอน เช่น


  • lead time ที่คงที่

  • demand ที่พอคาดการณ์ได้

  • supplier ที่ไม่เปลี่ยนบ่อย

  • พฤติกรรมลูกค้าที่สม่ำเสมอ


แต่ในความเป็นจริงวันนี้…


  • ลูกค้าเปลี่ยนแผนทุกสัปดาห์

  • ข้อมูลจากฝ่ายต่าง ๆ ขยับไม่ทันกัน

  • ผู้บริหารอยากรู้ว่า "ถ้าสั่งน้อยลง 20% จะเกิดอะไรขึ้น?" แต่ระบบ ERP กลับไม่สามารถให้คำตอบนั้นได้ในเวลาที่ต้องการ


ผมไม่ได้บอกว่า ERP แบบเดิมไม่ดี - มันยังมีคุณค่าในหลายแง่มุม - แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและหลากหลายอย่างที่เรากำลังเผชิญอยู่



ERP แบบเดิม vs Adaptive Planning


ลองเปรียบเทียบแนวคิดดั้งเดิมกับแนวทางที่น่าจะเหมาะกับโลกปัจจุบันมากขึ้น


ERP แบบเดิม → Adaptive Planning 


  • วางแผนแบบตายตัว → วางแผนต่อเนื่องและปรับตามสถานการณ์

  • ใช้ข้อมูลในอดีตเป็นหลัก → จำลองสถานการณ์ล่วงหน้า

  • ปรับแผนยาก → ปรับแผนได้เร็วและยืดหยุ่น

  • โฟกัสภายในองค์กร → ดึงข้อมูลจากภายนอกมาประกอบการตัดสินใจ


ree


ไม่ใช่แค่ "วางแผน" แต่ต้อง "พร้อมเปลี่ยนแผน"


ถ้าเรายอมรับว่าความไม่แน่นอนจะยังคงอยู่ต่อไป ระบบ ERP ในอนาคตน่าจะต้องมีคุณสมบัติบางอย่างที่ต่างจากเดิม เช่น


Real-time Data Integration

ดึงข้อมูลจากภายนอก เช่น ราคาวัตถุดิบ ข่าวเศรษฐกิจ หรือสถานะซัพพลายเออร์ เพื่อให้การตัดสินใจไม่ยึดติดแค่ข้อมูลภายใน


Scenario Simulation

จำลองสถานการณ์เพื่อเตรียมแผนสำรอง และเข้าใจความเสี่ยงก่อนเกิดจริง


AI/ML Integration

ใช้เทคโนโลยีคาดการณ์แนวโน้ม และช่วยแนะนำทางเลือกที่อาจไม่เคยคิดถึงมาก่อน


Agile Workflow

ปรับกระบวนการให้เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วและไม่ติดขัดเมื่อสถานการณ์เปลี่ยน



กรณีจริงจากลูกค้า


เมื่อต้นปี 2025 ทีมของเรามีโอกาสวางระบบ ERP ให้กับบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่งที่ส่งออกไปยังหลายภูมิภาคทั่วโลก


ระบบที่วางไว้ในระยะแรกมุ่งไปที่การจัดการกระบวนการภายในเป็นหลัก ซึ่งตอบโจทย์ในช่วงที่สภาพแวดล้อมยังไม่ซับซ้อนนัก แต่เมื่อเกิดมาตรการภาษีนำเข้าใหม่ในเดือนเมษายน บริษัทต้องเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว


ระบบ ERP ที่มีอยู่ไม่สามารถให้ข้อมูลหรือทางเลือกอื่นได้ทันเวลา ฝ่ายวางแผนและจัดซื้อจึงต้องใช้วิธีการแบบ manual ชั่วคราว ซึ่งไม่เพียงพอในการตัดสินใจที่รวดเร็วและแม่นยำ


ขณะนี้เรากำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาโมดูลเพิ่มเติม เพื่อให้ระบบสามารถรับข้อมูลภายนอกและจำลองสถานการณ์ได้ดีขึ้นในอนาคต แต่นี่ก็คือเครื่องเตือนใจสำคัญว่า ERP เพียงอย่างเดียวอาจไม่พออีกต่อไป


สรุป


ในโลกที่ความไม่แน่นอนกลายเป็นเรื่องปกติ การวางแผนทรัพยากรอาจไม่สามารถยึดตามสูตรเดิมได้อีกแล้ว และแม้จะมีระบบที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ แต่เราก็ยังไม่พบคำตอบที่สมบูรณ์แบบ


คำถามที่อาจจะต้องกลับมาทบทวนกันก็คือ ระบบ ERP ที่เรากำลังใช้กันอยู่ ยังขาดอะไร? แล้วองค์กรของเราพร้อมแค่ไหนที่จะเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน?


บางที สิ่งที่ควรเริ่มต้น อาจไม่ใช่การมองหาโซลูชันใหม่ทันที แต่คือการเปิดใจรับความจริงว่า ไม่มีระบบใดที่ "พาองค์กรไปต่อได้" โดยลำพัง


เมื่อสิ่งที่แน่นอนที่สุดคือความไม่แน่นอน แล้วคุณได้เตรียมองค์กรไว้สำหรับความเปลี่ยนแปลงรอบหน้าแล้วหรือยัง?

 
 
 

ความคิดเห็น


Post: Blog2_Post
  • Facebook

©2020 by Scraft On Cloud. Proudly created with Wix.com

bottom of page