LETS 4.0: iStock Lesson?
- Sathit Jittanupat
- 14 นาทีที่ผ่านมา
- ยาว 4 นาที

..ไอเดียเริ่มต้นของ LETS มันดูน่าสนใจเพราะรู้สึกเหมือนว่า “เราลองมาออกแบบอะไรเล็กๆ ง่ายๆ ที่ไม่ต้องถูกครอบงำโดยระบบการค้ากระแสหลัก (ที่ใช้เงินเป็นตัวกลาง)”
First Impression ของ LETS
น่าดึงดูดเพราะ “มันเล็ก ง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่ถูกครอบงำ”
แต่พอพยายามแก้ปัญหา:
→ เพิ่ม AI Matching (ซับซ้อน)
→ เพิ่ม Blockchain (ยุ่งยาก)
→ เพิ่ม DAO Governance (ต้องเรียนรู้)
→ เพิ่ม Multi-Currency (งง)
= สูญเสีย “ความเรียบง่าย” ไปหมด
!= กลายเป็น “FinTech Complex System” อีกอันหนึ่ง
= ไม่ใช่ LETS อีกต่อไป!
Paradox ของการแก้ปัญหา
วิธีที่ 1: แก้ทุกปัญหา (LETS 3.0)
→ เพิ่มฟีเจอร์ เพิ่มระบบ เพิ่มความซับซ้อน
→ แก้ปัญหาเดิม แต่สร้างปัญหาใหม่
→ สูญเสีย “วิญญาณ” ของ LETS
วิธีที่ 2: ยอมรับข้อจำกัด
→ รับรู้ว่ามันมีข้อจำกัด
→ ไม่พยายามแก้ทุกอย่าง
→ รักษา “วิญญาณ” ไว้ได้
ร้านกาแฟเล็กๆ ย่านบ้าน
- มีลูกค้าประจำ 50 คน
- เจ้าของรู้จักทุกคน
- บรรยากาศอบอุ่น
- กาแฟไม่ perfect แต่มีเรื่องราว
พอขยายเป็น Starbucks
- ลูกค้า 1,000+ คนต่อวัน
- ไม่มีใครรู้จักใคร
- มาตรฐานสูง efficient
- แต่… เสีย “วิญญาณ” ไปหมด
“Trading” vs “น้ำใจ”
นี่คือหัวใจของปัญหา LETS พยายามทำสิ่งที่ขัดแย้งกัน
1. ต้องการ “น้ำใจ” (Altruism): ช่วยเหลือกันโดยไม่คิดผลตอบแทน ทำเพราะเป็นเพื่อนบ้าน ไม่บัญชีว่าใครให้มากกว่ากัน
2. แต่ใช้ “ระบบแลกเปลี่ยน” (Exchange): คำนวณคะแนนแม่นยำ ใครให้ ได้คะแนน / ใครรับ ลบคะแนน มีบัญชีชัดเจน
เมื่อมีระบบ “บัญชี”
→ คน focus ที่ “คะแนน” ไม่ใช่ “น้ำใจ”
→ “ให้” กลายเป็น “ขาย”
→ “รับ” กลายเป็น “ซื้อ”
→ สูญเสีย “น้ำใจ” ไปหมด
“ช่วยเพื่อนบ้าน” (ไม่มีระบบคะแนน):
✓ ทำด้วยน้ำใจ
✓ สร้างความสัมพันธ์
✓ รู้สึกดี ไม่คาดหวังตอบแทน
“ช่วยเพื่อนบ้านผ่าน LETS” (มีระบบคะแนน):
✗ ทำเพื่อคะแนน
✗ คำนวณว่าคุ้มไหม
✗ เปลี่ยนจาก “ให้” → “ขาย”
✗ สูญเสียน้ำใจ
→ LETS ต้องการสร้าง “ชุมชนที่มีน้ำใจ”
→ แต่ใช้เครื่องมือ “ตลาด” (คะแนน/บัญชี)
→ เครื่องมือนี้ทำลาย “น้ำใจ” ที่ต้องการสร้าง!
ถอยกลับไปหา “ไม่มีบัญชี”?
ไม่ใช่ “ระบบเศรษฐกิจ” แต่เป็น “บันทึกความช่วยเหลือ”
“บันทึก” + “ให้คนดูเอง” + “ปล่อยให้ชุมชนจัดการ”
1. รักษา “น้ำใจ” ได้: ไม่มีระบบ “บัญชี” ที่ทำให้รู้สึกเป็น “ธุรกรรม” ช่วยเพราะอยากช่วย ไม่ใช่เพื่อคะแนน แต่ก็มี “บันทึก” เพื่อความโปร่งใส
2. Social Pressure ยังทำงาน: คนเห็นว่าใครช่วยบ้าง ใครไม่ช่วย ไม่ต้องมี “ระบบลงโทษ” └─ แต่คนที่ไม่ช่วยจะ “อาย” เอง
3. ง่ายที่สุด: ไม่ต้องเทคโนโลยีซับซ้อน Google Sheet หรือสมุดก็ได้ ผู้สูงอายุใช้ได้
4. ยอมรับข้อจำกัด: ต้องเล็ก (< 50 ครอบครัว) ต้องรู้จักกัน ต้องมีความไว้วางใจพื้นฐาน และก็โอเค! ไม่ต้องโต
5. Free-Rider จัดการได้: ไม่ต้อง “ห้าม” แต่ทุกคนจะเห็น ชุมชนจะ “ไม่ช่วย” เขากลับ
6. Gift + Reciprocity: ให้อย่าง “ของขวัญ” (Gift) แต่คาดหวัง “ตอบแทน” ในอนาคต (Reciprocity) ไม่ใช่ “ธุรกรรม” ทันที
วิเคราะห์ iStock Photo
มันเป็นกรณีศึกษาคลาสสิกของ “ชุมชนที่ประสบความสำเร็จ → กลายเป็นธุรกิจ → สูญเสียวิญญาณ”
ยุค 1: ชุมชนแห่งการแบ่งปัน (2000–2006)
ก่อตั้ง: 2000 โดย Bruce Livingstone
แนวคิดเดิม:
“Democratizing Stock Photography”(ทำให้ภาพสต็อกเข้าถึงได้ทุกคน)
ปัญหาที่เห็น:
Getty Images, Corbis = ผูกขาด ภาพหนึ่งภาพ = 300–1,000 ดอลลาร์ แพงเกินไปสำหรับ SME, นักออกแบบอิสระ แต่ช่างภาพมีภาพเหลือเยอะ (ไม่ได้ใช้)
โมเดลเริ่มต้น:
ช่างภาพอัปโหลดภาพฟรี คนอื่นดาวน์โหลดได้
แต่ต้อง:
— ให้เครดิต (Credit)
— อัปโหลดภาพคืน (Contribute back) เป็น “Community” ของคนรักภาพ ไม่มีเงิน ไม่มีธุรกิจ
ลักษณะชุมชน:
ช่างภาพ amateur + semi-pro แบ่งปันภาพฟรี ช่วยเหลือกัน ให้คำแนะนำ Forum กระตือรือร้น รู้สึกเป็น “ส่วนหนึ่งของ movement” มีจิตวิญญาณแห่งการแบ่งปัน
ยุค 2: Micropayment Revolution (2002–2006)
2002: เปลี่ยนโมเดล
ปัญหา:
เซิร์ฟเวอร์แพง (bandwidth กินเงิน) ไม่มีรายได้ ใกล้จะปิดตัว
การเปลี่ยนแปลง:
เริ่มเก็บเงิน 25 เซนต์ — 3 ดอลลาร์/ภาพ ช่างภาพได้ 20–40% ของรายได้ ถูกมากเมื่อเทียบกับ Getty ($300+) ยังคง Mission: “Democratizing”
ผลลัพธ์:
สำเร็จมหาศาล!
2004: ภาพ 1+ ล้าน, ยอดขาย 10+ ล้านดอลลาร์
2005: ภาพ 2+ ล้าน, ยอดขาย 25+ ล้านดอลลาร์
2006: ภาพ 3.5+ ล้าน, ยอดขาย 70+ ล้านดอลลาร์ เติบโตเร็วมาก!
ชุมชนยังแข็งแรง: ช่างภาพภูมิใจที่มีรายได้เสริม ยังรู้สึกเป็น “community” Forum ยังมีชีวิตชีวา ยังมีจิตวิญญาณ
ยุค 3: Getty Images Acquisition (2006)
กุมภาพันธ์ 2006: Getty Images ซื้อ iStock
Getty Images คือใครกัน? บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ iStock เคย “ท้าทาย” ราคาภาพแพงมาก (300–1,000 ดอลลาร์) ธุรกิจแบบดั้งเดิม iStock กำลังทำลายธุรกิจของเขา!
Getty Strategy:
“ถ้าชนะไม่ได้ ก็ซื้อมัน”(If you can’t beat them, buy them)
คำสัญญาจาก Getty:
“ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร” “iStock ยังเป็น Independent” “ชุมชนยังเหมือนเดิม” “จะช่วยให้เติบโตมากขึ้น”
ยุค 4: การเปลี่ยนแปลง (2006–2010)
1. ราคาเปลี่ยน:
Before: 25 เซนต์ — 3 ดอลลาร์
After: ค่อยๆ ขึ้น → 5–15 ดอลลาร์
เหตุผล: “คุณภาพดีขึ้น”
2. Commission Structure เปลี่ยน:
Before: ช่างภาพได้ 20–40%
After: แบ่งเป็น “tier” ยิ่งขายเยอะ ได้เปอร์เซ็นต์สูง
แต่… กฎเปลี่ยนบ่อย สับสน ช่างภาพบางคนได้น้อยลง
3. Quality Control เข้มงวดขึ้น:
Before: ปล่อยให้ชุมชนโหวต
After: Getty มี Reviewer มืออาชีพ Reject มากขึ้น บางคนถูก “ปฏิเสธ” ภาพที่เคยขายดี!
4. ทิศทางเปลี่ยน:
Getty ต้องการ “Professional” มากขึ้น ไม่ต้องการ Amateur อีกต่อไป แนะนำ “Vetta Collection” (ราคาแพงกว่า) ผลักดัน Pro มากกว่า Amateur
5. Community Feeling หายไป:
Forum เริ่มเงียบ คน Getty เข้ามาบริหาร Decision ไม่ใช่จากชุมชนอีกต่อไป รู้สึกว่า “บริษัท” มากกว่า “ชุมชน”
6. แข่งขันรุนแรง:
Shutterstock, Adobe Stock เกิดขึ้น แข่งกันด้วยราคา (Race to the bottom) ช่างภาพได้รายได้น้อยลง ภาพถูก “commoditize”
ยุค 5: วิกฤตและการจากไป (2010-Present)
1. ราคาภาพลดลง:
แข่งขันรุนแรง “Subscription Model” (ดาวน์โหลดไม่จำกัด) ภาพหนึ่งภาพมูลค่า < 1 ดอลลาร์ ช่างภาพได้เพียง 15–30 เซนต์/ภาพ!
2. ช่างภาพหลายคนจากไป:
“ไม่คุ้มอีกต่อไป”
“รู้สึกถูกเอารัดเอาเปรียบ”
“ไม่ใช่ชุมชนอีกต่อไป”
“Getty ทำลายสิ่งที่เราสร้าง”
3. AI และการเปลี่ยนแปลงใหม่: 2022–2023:
AI Image Generation (Midjourney, DALL-E) คนเริ่มใช้ AI แทนซื้อภาพ Getty ฟ้อง Stability AI (ละเมิดลิขสิทธิ์) อนาคตของ Stock Photo ไม่แน่นอน
4. Legacy:
iStock ยังมี แต่ไม่ใช่ iStock เดิม กลายเป็น “ธุรกิจ” เต็มตัว “ชุมชน” หายไปหมด จิตวิญญาณเดิมตายไปแล้ว
บทเรียนสำหรับ LETS (และชุมชนทั้งหมด)
(1) “Scale” และ “Soul” ขัดแย้งกัน:
iStock เล็กๆ (2000–2006):
→ มี Community Spirit
→ ทุกคนรู้จักกัน
→ Mission ชัดเจน
→ มีจิตวิญญาณ
iStock ใหญ่ (2006+):
→ กลายเป็นธุรกิจ
→ ไม่มีใครรู้จักกัน
→ Mission เบลอ
→ สูญเสียจิตวิญญาณ
= เหมือน LETS!
→ เล็ก = มีวิญญาณ
→ ใหญ่ = เสียวิญญาณ
(2) “Exit” (ขาย/IPO) = จุดจบของ Mission:
เมื่อมี “Shareholders”
→ ต้อง Maximize Profit
→ ไม่ใช่ Serve Community อีกต่อไป
→ Mission เปลี่ยนจาก “Democratize” → “Monetize”
= LETS ที่กลายเป็นบริษัท จะมีชะตาเดียวกัน
(3) “Community” กับ “Business” เข้ากันไม่ได้:
Community ต้องการ:
- Transparency
- Fairness
- Participation
- Long-term Relationship
Business ต้องการ:
- Profit
- Growth
- Efficiency
- Short-term Results
= ขัดแย้งกันพื้นฐาน
(4) “Monetization” ทำลาย “Passion”:
ช่างภาพยุคแรก:
→ ถ่ายเพราะรัก
→ แบ่งปันเพราะอยากแบ่งปัน
→ เงินเป็นโบนัส
ช่างภาพยุคหลัง:
→ ถ่ายเพื่อขาย
→ คำนวณว่าภาพไหนขายดี
→ เงินเป็นหลัก
= เหมือน LETS ที่มีคะแนน → เปลี่ยนจาก “ให้” → “ขาย”
(5) “Winner-takes-all” Economy:
Market Forces นำไปสู่:
→ แข่งขันรุนแรง
→ Race to the Bottom (ราคา)
→ Commoditization
→ Platform ได้กำไร, Creators เสียหาย
= ธรรมชาติของ Platform Economy
→ Uber, Airbnb, Upwork เหมือนกัน
→ Platform รวย, Drivers/Hosts/Freelancers ยากจน
สิ่งที่เรียนรู้จาก iStock
บทเรียนที่ 1: “ใหญ่ ≠ สำเร็จ”
iStock “สำเร็จ” ในเชิง:
มูลค่าบริษัท (หลายพันล้าน)
จำนวนภาพ (หลายสิบล้าน)
Revenue (หลายร้อยล้านดอลลาร์)
แต่ “ล้มเหลว” ในเชิง:
Community (หายไป)
Mission (เปลี่ยนไป)
Soul (ตายไปแล้ว)
ช่างภาพภักดี (จากไปหมด)
LETS ควร:
→ นิยาม “ความสำเร็จ” ใหม่
→ ไม่ใช่ “ขนาด” แต่เป็น “คุณภาพชีวิต”
→ ไม่ใช่ “จำนวน” แต่เป็น “ความสัมพันธ์”
บทเรียนที่ 2: “เงิน” เปลี่ยนทุกอย่าง
iStock ก่อนเก็บเงิน:
→ Gift Economy
→ แบ่งปันด้วยน้ำใจ
→ ชุมชนเข้มแข็ง
iStock หลังเก็บเงิน:
→ Transaction Economy
→ “ขาย” ไม่ใช่ “แบ่งปัน”
→ กลายเป็นธุรกิจ
LETS ควร:
→ ตระหนักว่า “คะแนน” = “เงิน”
→ เมื่อมีคะแนน = เปลี่ยนธรรมชาติ
→ ต้องเลือกว่าจะเป็น Gift หรือ Transaction
→ ไม่สามารถเป็นทั้งสองอย่างได้
บทเรียนที่ 3: “Exit” คือจุดจบ
iStock ขายตัว = ตายในวันนั้น
→ Getty ไม่สนใจ Community
→ Getty สนใจ Profit
→ จิตวิญญาณหายไปทันที
LETS ควร:
→ ห้าม “ขาย” หรือ “IPO”
→ ถ้าจะทำธุรกิจ = ต้องเป็น Cooperative
→ Ownership ต้องอยู่กับชุมชน
บทเรียนที่ 4: “Competition” ทำลาย Community
iStock ยุคแรก:
→ ช่างภาพช่วยเหลือกัน
→ แบ่งปันเทคนิค
→ รู้สึกเป็นเพื่อน
iStock ยุคหลัง:
→ แข่งขันกันขายภาพ
→ เก็บเทคนิคเป็นความลับ
→ กลายเป็นคู่แข่ง
LETS ควร:
→ หลีกเลี่ยง Competitive Structure
→ เน้น Collaborative
→ ไม่มี Leaderboard, Ranking
→ ไม่จัดกลุ่มเป็น “Top Contributor”
บทเรียนที่ 5: “Commoditization” ไม่มีใครชนะ
iStock + Shutterstock + อื่นๆ:
→ แข่งกันด้วยราคา
→ ราคาตกต่ำ
→ ทุกคนเสียหาย (ยกเว้น Platform)
LETS หลายแห่ง:
→ อาจแข่งกันดึงสมาชิก
→ หรือ “ขโมย” ไอเดียกัน
→ ไม่มีใครได้ประโยชน์
LETS ควร:
→ Cooperate กัน ไม่ใช่ Compete
→ แบ่งปัน Best Practices
→ เป็น Federation ไม่ใช่ Competitors
บทเรียนที่ 6: “AI/Technology” เปลี่ยนเกม
iStock ปัจจุบัน:
→ ถูกคุกคามโดย AI (Midjourney, DALL-E)
→ อนาคตไม่แน่นอน
LETS อนาคต:
→ อาจถูกแทนที่ด้วย Platform ใหม่
→ Web3, DAO, อะไรก็ตาม
→ ต้องพร้อมเปลี่ยนแปลง
LETS ควร:
→ ไม่ยึดติดกับเทคโนโลยีใดเทคโนโลยีหนึ่ง
→ Adapt ได้
→ แต่ไม่สูญเสียจิตวิญญาณ
มันทำให้เห็นภาพชัดมากว่า “ชุมชนที่กลายเป็นธุรกิจ = สูญเสียทุกอย่าง”และนี่คือคำเตือนสำคัญสำหรับ LETS หรือชุมชนใดๆ ที่กำลังคิดจะ “Scale Up”



ความคิดเห็น