top of page
ค้นหา

ERP and Financial Statement Analysis

  • รูปภาพนักเขียน: Sathit Jittanupat
    Sathit Jittanupat
  • 12 นาทีที่ผ่านมา
  • ยาว 1 นาที

อ่านงบการเงิน: ทักษะที่เจ้าของธุรกิจยุคใหม่ต้องมี


ree

ธุรกิจในยุคก่อนอาจไม่จำเป็นต้องพึ่งพาระบบคอมพิวเตอร์ การจัดทำบัญชีหรือเอกสารต่าง ๆ มักทำแบบแมนนวล แต่วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ธุรกิจแทบทุกขนาดต่างใช้คอมพิวเตอร์หรือซอฟต์แวร์อย่างน้อยเพื่อเปิดบิล ออกใบเสร็จ หรือจัดเก็บข้อมูล ตัวเลขเหล่านี้จึงกลายเป็น "ข้อมูล" ที่พร้อมสำหรับการวิเคราะห์


หนึ่งในแหล่งข้อมูลสำคัญที่สุดคือ "งบการเงิน" ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากระบบบัญชีที่กิจการต้องจัดทำและยื่นตามกฎหมายทุกปี แต่สำหรับหลายคน งบการเงินก็ไม่ต่างจากภาษาต่างประเทศที่อ่านไม่ออก แปลไม่เป็น


การ "อ่านงบการเงินได้" จึงไม่ใช่แค่การมองตัวเลข แต่คือความสามารถในการตีความ (Analysis) เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลที่สะท้อนสุขภาพธุรกิจจริง ๆ


ทำไมเจ้าของธุรกิจต้องอ่านงบการเงินให้เป็น


ในองค์กรขนาดใหญ่ ฝ่ายบัญชีมักทำรายงานวิเคราะห์ตัวเลขและสรุปให้ผู้บริหารใช้ประกอบการตัดสินใจ แต่สิ่งที่หลายคนมองข้ามคือ: ผู้บริหารเองต้องเข้าใจภาษาการเงินด้วย ไม่เช่นนั้นก็จะไม่รู้ว่าควรถามอะไร ควรจับตาตรงไหน หรือควรตัดสินใจอย่างไร


บ่อยครั้งในธุรกิจขนาดกลางและเล็ก ฝ่ายบัญชีอาจไม่ได้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์เชิงลึก ผู้บริหารจึงต้องวิเคราะห์ตัวเลขจากงบการเงินด้วยตัวเองอยู่ดี


และไม่ใช่แค่ผู้บริหารเท่านั้นที่อ่านงบการเงิน - กรมสรรพากรเองก็วิเคราะห์เช่นเดียวกัน เพื่อดูความสอดคล้องและความน่าเชื่อถือของกิจการ


ree

เครื่องมือและวิธีวิเคราะห์งบการเงินที่เจ้าของธุรกิจควรรู้


1. การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน (Financial Ratio Analysis)


เป็นการนำตัวเลขในงบดุลและงบกำไรขาดทุนมาคำนวณเพื่อดูสภาพคล่อง ความสามารถทำกำไร ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และความมั่นคงของกิจการ


ตัวอย่าง

  • อัตราส่วนสภาพคล่อง: (สินทรัพย์หมุนเวียน / หนี้สินหมุนเวียน) เพื่อดูความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้น

  • อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน: (หนี้สินทั้งหมด / ส่วนของผู้ถือหุ้น) เพื่อดูระดับการใช้หนี้สินของกิจการ


ผลลัพธ์สามารถนำไปเทียบกับคู่แข่ง ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม หรือผลประกอบการของตัวเองในอดีต

ระบบ ERP มักเตรียมข้อมูลพื้นฐานให้ แต่การเปรียบเทียบมักต้องนำไปทำต่อใน Excel หรือโปรแกรมเฉพาะ


2. การวิเคราะห์โครงสร้างงบการเงิน (Common-size Analysis)


นำตัวเลขในงบดุลและงบกำไรขาดทุนมาแปลงเป็น "เปอร์เซ็นต์" เพื่อให้เห็นสัดส่วนของรายการต่าง ๆ อย่างชัดเจน เช่น ค่าใช้จ่ายกินสัดส่วนรายได้เท่าไหร่


รายงานลักษณะนี้ ERP หลายระบบสร้างให้ได้ทันที


3. การวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend Analysis)


เปรียบเทียบตัวเลขหลายปีเพื่อดูทิศทาง เช่น รายได้โตจริงไหม ต้นทุนเพิ่มเร็วเกินไปหรือไม่ กำไรลดลงเพราะอะไร


ตัวอย่าง

  • เปรียบเทียบยอดขายและกำไรสุทธิของบริษัทในแต่ละปี เพื่อดูว่ามีการเติบโตหรือลด


หาก ERP เก็บข้อมูลหลายปีในโครงสร้างเดียวกัน ก็สามารถสร้างรายงานแนวนี้ได้อัตโนมัติ


4. การวิเคราะห์กระแสเงินสด (Cash Flow Analysis)


งบกระแสเงินสดแสดงการเคลื่อนไหวของเงินสดในธุรกิจ บอกได้ว่าสภาพคล่องเป็นอย่างไร และกิจการมีความสามารถหาเงินสดจากการดำเนินงานมากน้อยเพียงใด


รายงานประเภทนี้มักซับซ้อน เพราะต้องแยกธุรกรรมเกี่ยวกับเงินสดออกจากรายการอื่นอย่างแม่นยำ


สรุป


งบการเงินคือกระจกสะท้อนตัวตนของธุรกิจ


ในยุคที่ระบบ ERP ทำให้ข้อมูลเข้าถึงได้ง่าย สิ่งที่สร้างความได้เปรียบไม่ใช่แค่การมีข้อมูล แต่คือความสามารถในการ "อ่านข้อมูล" และ "ตีความหมาย" ได้อย่างลึกซึ้ง


เจ้าของธุรกิจไม่จำเป็นต้องเป็นนักบัญชี แต่ควรรู้พอที่จะเข้าใจทิศทางธุรกิจของตัวเอง ให้รู้ว่ากำลังเดินไปถูกทางหรือไม่ และจะต้องปรับอะไรเพื่อให้ธรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน


เพราะในโลกธุรกิจยุคนี้ การ "อ่านตัวเลขเป็น" ก็คือการ "อ่านอนาคตของตัวเองเป็น" เช่นกัน


 
 
 

ความคิดเห็น


Post: Blog2_Post
  • Facebook

©2020 by Scraft On Cloud. Proudly created with Wix.com

bottom of page